ครีมกันแดด Physical VS Chemical แบบไหนที่เหมาะกับเรา ?

หลักการทำงานของกันแดด Physical VS กันแดด Chemical

 

ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุของประเทศไทยในปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในสกินแคร์ตัวสำคัญที่หลาย ๆ คนจำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อเลือกหามาติดโต๊ะเครื่องแป้งเอาไว้ และพกพาติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเสมอ คือ สกินแคร์ที่เราเรียกกันว่า “ครีมกันแดด” หรือ ผลิตภัณฑ์กันแดด (Sunscreen) ทั้งประเภทกันแดด Physical และกันแดด Chemical เพราะผลิตภัณฑ์กันแดด เวชสำอาง เหล่านี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังของเราต้องสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต หรือรังสียูวี (Ultraviolet Radiation: UV) ที่มีอยู่ในแสงแดดโดยตรง จนนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะทำให้ผิวไหม้ ผิวเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย เกิดจุดด่างดำ ตลอดจนการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้

ซึ่งในปัจจุบันนี้ครีมกันแดด เวชสําอาง ที่มีวางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดให้เราได้เลือกใช้งานกันอยู่ทั่วไปนั้นจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่ กันแดด Physical และกันแดด Chemical ซึ่งกันแดด เวชสำอาง ทั้ง 2 ประเภทนี้เองก็ล้วนให้ผลลัพธ์ทั้งเรื่องของเนื้อครีม รวมถึงวิธีการและความสามารถในการป้องกันรังสี UVB และ UVA ที่จะมาทำลายชั้นผิวของเราที่แตกต่างกันออกไป สำหรับใครที่อยากรู้ว่าการเลือกครีมกันแดด หน้าไม่มัน ไม่อุดตัน หรือครีมกันแดด ผิวแพ้ง่าย ทั้งประเภทกันแดด Physical และกันแดด Chemical มาใช้งานนั้นควรเลือกแบบไหนดีกว่ากัน ลองมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้ได้เลย

กันแดด Physical VS กันแดด Chemical ต่างกันอย่างไร ?

กันแดด Physical (Physical Sunscreen)

มาเริ่มต้นกันที่กันแดด เวชสำอาง ประเภทแรกอย่างกันแดด Physical (Physical Sunscreen) หรือที่เรามักจะนิยมเรียกกันในชื่อ Mineral Sunscreen เนื่องจากผลิตภัณฑ์กันแดดประเภทนี้เป็นกันแดด เวชสำอาง ที่มีส่วนประกอบของแร่ธาตุจากธรรมชาติเป็นหลัก จึงทำให้สารกันแดด Physical ไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังของเราได้ เพราะฉะนั้นแล้วการใช้งานกันแดด Physical จึงมักไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือการระคายเคืองในขณะใช้งาน คุณแม่ตั้งครรภ์และเด็ก ๆ จึงสามารถใช้ได้ อีกทั้งกันแดด Physical ยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อปะการังและสัตว์ทะเลต่าง ๆ อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังของการใช้งานกันแดด Physical ที่ไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได้นั้น คือ การที่กันแดด Physical อาจส่งผลให้เกิดคราบสีขาวบนใบหน้าหรือเกิดความรู้สึกหนักหน้าได้เล็กน้อยหลังจากที่ทา รวมถึงกันแดด Physical อาจหลุดออกจากหน้าของเราเมื่อโดนเหงื่อได้นั่นเอง


หลักการทำงานของกันแดด Physical

โดยทั่วไปแล้วกันแดด Physical จะประกอบไปด้วยสารที่ทำหน้าที่คล้ายกับเกราะป้องกันบนผิวของเรา ส่งผลให้เมื่อผิวหนังของเราสัมผัสเข้ากับแสงแดด สารกันแดด Physical เหล่านี้จะทำหน้าที่ในการช่วยสะท้อนและหักเหรังสี UVB และ UVA ออกไปจากผิวของเรา เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ทั้งรังสี UVB และ UVA ที่ตกกระทบลงมาบนผิวของเรานั้นสามารถทำลายชั้นผิวหนังของเราได้


สารที่พบได้ในกันแดด Physical

สำหรับสารที่สามารถพบได้ในกันแดด Physical นั้นจะมีอยู่ด้วยกันหลัก ๆ ทั้งหมด 2 ตัว ได้แก่

  • Zinc Oxide สามารถช่วยป้องกันรังสี UVB และ UVA ทั้งหมด (UVA-I, UVA-II)
  • Titanium Dioxide สามารถช่วยป้องกันรังสี UVB และ UVA บางส่วน (UVA-I)


กันแดด Chemical (Chemical Sunscreen)

มาต่อกันที่กันแดดอีกหนึ่งประเภทอย่างกันแดด Chemical (Chemical Sunscreen) ซึ่งถือได้ว่าเป็นกันแดด เวชสำอางที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานมากที่สุดในขณะนี้ เนื่องจากกันแดด Chemical จะให้เนื้อสัมผัสที่เบาบางและสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายและไวกว่ากันแดด Physical จึงทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกทากันแดด Chemical ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่น ๆ ได้โดยที่ไม่ต้องคอยกังวลถึงคราบขาวที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากการใช้งาน

แต่อย่างไรก็ตามการใช้งานกันแดด Chemical ที่สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายกว่ากันแดด Physical นั้นก็อาจส่งผลให้ผู้ใช้งานมีความเสี่ยงต่อการแพ้หรือระคายเคืองต่อกันแดด Chemical ได้ง่ายมากกว่ากันแดด Physical อีกทั้งหากผู้ใช้งานไม่ได้มีการล้างทำความสะอาดใบหน้าด้วยคลีนซิ่งอย่างถูกวิธีก็อาจส่งผลให้กันแดด Chemical เกิดการอุดตันจนนำไปสู่การเกิดสิวได้


หลักการทำงานของกันแดด Chemical

กันแดด Chemical เป็นกันแดด เวชสำอาง ที่ทำหน้าที่ในการปกป้องผิวหนังของเราจากรังสี UVB และ UVA ที่มีอยู่ในแสงแดดโดยการกักเก็บและดูดซับรังสี UVB และ UVA เอาไว้เพื่อไม่ให้รังสีเหล่านี้สามารถซึมผ่านเข้าไปทำลายชั้นผิวหนังของเราได้ ก่อนที่กันแดด Chemical จะทำการเปลี่ยนให้รังสีเหล่านี้อยู่ในรูปของพลังงานความร้อนแล้วทำการปลดปล่อยพลังงานเหล่านี้ออกมา แต่อย่างไรก็ตามการทำงานของกันแดด Chemical นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในทันทีเหมือนอย่างเช่นกันแดด Physical ส่งผลให้ผู้ใช้งานจึงจำเป็นที่จำต้องทากันแดด Chemical ก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 – 30 นาที เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVB และ UVA ในแสงแดดที่ดีที่สุด


สารที่พบได้ในกันแดด Chemical

สำหรับสารที่สามารถพบเจอได้บ่อยในกันแดด Chemical ที่มีวางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดในขณะนี้นั้นจะมีอยู่ด้วยกันหลากหลายชนิด ซึ่งสารกันแดด Chemical แต่ละชนิดนั้นก็ล้วนมีความสามารถในการช่วยดูดซับพลังงานจากรังสี UVB และ UVA ในช่วงที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น Aminobenzoic Acid (PABA), Avobenzone, Cinoxate, Dioxybenzone, Ecamsule (aka Mexoryl SX), Homosalate, Menthyl Anthranilate, Octocrylene, Octyl Methoxycinnamate (OMC), Octyl Salicylate, Oxybenzone, Padimate O, Phenylbenzimidazole, Sulisobenzone, Tinosorb, และ Trolamine Salicylate เป็นต้น

 

ครีมกันแดด Physical VS Chemical แบบไหนที่เหมาะกับเรา ?


หากพูดกันตามตรงแล้วครีมกันแดด หน้าไม่มัน ไม่อุดตัน กันแดด ผิวแพ้ง่าย ทั้งกันแดด Physical และกันแดด Chemical ล้วนมีข้อดีและข้อจำกัดในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ตามกันแดด Physical และกันแดด Chemical นั้นก็ล้วนมีความสามารถในการช่วยป้องกันไม่ให้รังสี UVB และ UVA ที่อยู่ในแสงแดดสามารถทำอันตรายต่อผิวของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นแลัวหากคุณยังไม่สามารถตัดสินใจเลือกซื้อกันแดด เวชสำอางทั้งกันแดด Physical และกันแดด Chemical ที่เหมาะกับคุณได้ เราขอแนะนำให้คุณลองหยิบยกเอาข้อดีและข้อจำกัดของกันแดด Physical และกันแดด Chemical มาเปรียบเทียบกัน ว่าข้อดีและข้อจำกัดของกันแดดตัวไหนสามารถตอบสนองต่อวิธีการใช้งานกันแดด เวชสำอาง และวิถีชีวิตของคุณมากที่สุด เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถเลือกซื้อครีมกันแดด หน้าไม่มัน ไม่อุดตัน ทั้งกันแดด Physical และกันแดด Chemical มาใช้งานได้อย่างตรงใจอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามในการเลือกซื้อกันแดด เวชสำอาง มาใช้งานนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ได้มีเพียงแค่การเลือกประเภทของกันแดดว่าเป็นกันแดด Physical หรือกันแดด Chemical เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะในปัจจุบันนี้ล้วนมีครีมกันแดด หน้าไม่มัน ไม่อุดตัน หรือกันแดด ผิวแพ้ง่าย หลากหลายยี่ห้อที่ล้วนนำเอาสารกันแดด Physical และสารกันแดด Chemical มาผสมเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดที่มากขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อกันแดด เวชสำอาง มาใช้งาน คือ การที่ผลิตภัณฑ์กันแดดตัวนั้นจำเป็นที่จะต้องช่วยปกป้องผิวของเราจากรังสี UVB และ UVA ได้แบบครอบคลุม (Broad-Spectrum) อีกทั้งกันแดด เวชสำอาง ที่เลือกมาใช้งานนั้นยังควรมีค่า SPF (Sun Protection Factor) ไม่น้อยกว่า 15 เพื่อประสิทธิภาพในการช่วยป้องกันรังสี UVB ที่สามารถทำให้ผิวหนังของเราเกิดอาการคัน แดง หรือเกิดผิวไหม้แดด ที่เพิ่มมากขึ้น

เลือกครีมกันแดด หน้าไม่มัน ไม่อุดตัน หรือกันแดด ผิวแพ้ง่ายที่เหมาะกับผิวของคุณ เลือกกันแดดเวช สำอางจาก De.'s Formula เพราะเราคือแบรนด์เวชสำอางไทยที่กำเนิดจากแรงบันดาลใจที่ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม “กันแดด เวชสำอาง” ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับทุกสภาพผิวของคนไทยมากที่สุด จนเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์ Organic Argan Oill Physical Sun Protector Spf 39+++ ผลิตภัณฑ์กันแดด Physical ที่สามารถช่วยป้องกันผิวของคุณจากรังสี UVB และ UVA ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และนอกจากนี้เรายังได้มีการเพิ่มสารสกัด Astaxanthin หรือสารสกัดจากสาหร่ายสีแดงลงไป เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวของคุณไม่ให้ถูกทำลายโดยแสงแดด และช่วยเพิ่มการต่อต้านอนุมูลอิสระเพื่อช่วยทำให้ผิวของคุณนุ่ม ชุ่มชื้น กระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้า :
Tel : 02-965-8026
FB : m.me/112055832210565
Shopee : Shopee.co.th/de.s_formula_officialshop
Lazmall : https://www.lazada.co.th/shop/de-s-formula